คุณค่าทางโภชนาการ

g_54
A ) น้ำมะพร้าว(coconut water) จากผลมะพร้าวอ่อนอายุไม่เกิน 7เดือน อุดมด้วยเกลือแร่ เอ็นไซม์ วิตามิน ไฟโตนูเทรี้ยน กรดไขมันลอริค(ที่มีอยู่ในน้ำนมแม่ อันเป็นสารอาหารช่วยสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย ได้เป็นอย่างดี) เหมาะอย่างยิ่งกับการดื่มเวลาท้องร่วง ท้องเสีย เพราะเกลือแร่(เหมือนเกลือแร่ที่ฉีดเข้าเส้นหรือเป็นซองใช้ชงดื่ม )เพื่อชดเชยการสูญเสียของเหลวในร่างกาย นอกจากนี้กรดไขมันลอริคยังมีสรรพคุณระงับเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา จึงมีคำแนะนำให้ผู้ป่วยจากการติดเชื้อใน ไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อทางเดินปัสสาวะดื่มอยู่เสมอๆ หากเปรียบเทียบกับบรรดาผลิตผลจากมะพร้าวทั้งหลาย น้ำมะพร้าวจัดได้ว่าเป็นสารอาหารที่มีปริมาณไขมันต่ำที่สุด และมีน้ำตาลน้อยกว่าน้ำกะทิ
 น้ำกะทิ (coconut milk)ได้จากการคั้นเนื้อมะพร้าวแก่ อุดมด้วยทั้ง ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เกลือแร่ โดยเฉพาะกรดไขมันโครงสร้างโมเลกุลขนาดปานกลาง (medium chain fatty acids= MFA) ซึ่งมีประโยชน์ต่อเส้นเลือด หัวใจ และอวัยวะต่างๆถึงแม้จะเป็นไขมันอิ่มตัวแต่ก็ไม่เป็นสาเหตุให้เส้นเลือดอุดตันเหมือนไขมันอิ่มตัวจากเนื้อสัตว์ คนที่แพ้นมวัวสามารถทานกะทิทดแทนนมวัวได้ น้ำกะทิ1แก้วจะประกอบด้วย โปรตีน กรดไขมันที่มีประโยชน์ เส้นใยไฟเบอร์ วิตามิน B, C ,E เกลือแร่โปตัสเซี่ยม ซีลีเนี่ยม แคลเซี่ยม เหล็ก กรดไขมันลอริค(ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน)
c) น้ำมันมะพร้าว ผลิตโดยนำเนื้อมะพร้าวแห้งมาผ่านความร้อนต่ำๆเพื่อให้ความชื้นระเหิดออกให้หมด จนเหลือแต่น้ำมัน นั่นคือ ไม่มีโปรตีน ไม่มีน้ำตาล ไม่มีน้ำหรือความชื้นหลงเหลืออยู่ จึงเป็นผลิตผลที่มีปริมาณกรดไขมันลอริคสูงที่สุดในบรรดาผลิตผลจากมะพร้าวทั้งหมด จึงเหมาะกับ
• ปกป้องหลอดเลือด หัวใจ สมอง เส้นประสาท และอวัยวะที่มีไขมันเป็นองค์ประกอบของเซลล์
• ช่วยล้างพิษ ดูดซับพิษในตับ ถุงน้ำดี
• สรรพคุณของกรดลอริคที่ระงับเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา จึงเป็นยาปฏิชีวนะธรรมชาติ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
• บำรุงผิวพรรณได้ดี สามารถทาทิ้งไว้บนใบหน้า หรือเส้นผม ก่อนนอนโดยไม่ต้องกังวลว่าตอนเผลอหลับไปแล้วจะมีมดมาไต่ตอมเหมือนการใช้ น้ำมะพร้าว น้ำกะทิ เพราะน้ำมันมะพร้าวไม่มีน้ำตาลและโปรตีนเป็นตัวล่อแมลงใดๆ และกรดไขมันลอริคเข้มข้นจะสามารถทำงาน 2-in-1 คือทั้งสร้างความชุ่มชื้นและระงับเชื้อไปในตัว
จากข้อเปรียบเทียบข้างต้นสรุปได้ว่าc-02
1. น้ำกะทิมีสารอาหารครบถ้วนมากที่สุด เพราะมีทั้ง โปรตีน ไขมัน น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต เหมาะกับใช้ปรุงเป็นอาหารมื้อหนัก
2. น้ำมันมะพร้าวเหลือแต่ไขมัน ไม่มีโปรตีน ไม่มีน้ำตาลหลงเหลืออยู่ เหมาะกับใช้ทอด ผัดอาหาร หรือเหยาะใส่ซุป แต่สุดยอดของน้ำมันมะพร้าวก็คือปริมาณที่เข้มข้นมากของกรดไขมันโครงสร้างโมเลกุลขนาดปานกลาง (medium chain fatty acids= MFA) โดยเฉพาะกรดลอริคที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานเหมือนกับน้ำนมแม่
3. น้ำมะพร้าว โดดเด่นด้านมีเกลือแร่ เอ็นไซม์ สูง เหมาะกับทานเป็นเครื่องดื่มชดเชยการสูญเสียเกลือแร่หลังออกกำลังกายหรือท้องร่วง
ไลลลล

ใส่ความเห็น