ประวัติความเป็นมาของซอ
เป็นเครื่องดนตรีไทยชนิดสีประเภทเครื่องสายอีกประเภทหนึ่งที่ทำให้เกิดเสียงด้วยการใช้คันชักสีเข้ากับสาย ใช้ประกอบวงเครื่องสาย วงมโหรี วงปี่พาทย์ไม้นวม และวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ มีหน้าที่หยอกล้อยั่วเย้าไปกับทำนองเพลง กระตุ้นอารมณ์ให้สนุกสนาน โดยเฉพาะในการบรรเลงประกอบการแสดงหุ่นกระบอก และการร้องแอ่วให้สอดประสานกลมกลืนกัน ซอที่ใช้อยู่ในวงดนตรีไทย มี ๓ ชนิดคือ
ซอสามสาย
ซอด้วง
ซออู้
การเตรียมกะโหลกซอ
มะพร้าวซอ จากการสัมภาษณ์คุณสมพร เกตุแก้ว กะลามะพร้าวที่ใช้ทำกะโหลกซอต้องใช้ผลของมะพร้าวซอ ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากกะลามะพร้าวธรรมดา คือด้านที่ไม่มีรูจะโป่งพองออกมาเป็น ๓ พู จะอุ้มเสียงได้ดี
นำกะโหลกซอที่เตรียมไว้ เจาะกะโหลกโดยวัดจากหนังหน้าซอด้านบนเข้าไป ๑ นิ้วครึ่งและเจาะด้านล่างกะโหลก โดยวัดจากหนังหน้าซอเข้าไป ๑ นิ้วกับ ๒ กระเบียด สอดคันทวนเข้าไปในรูบนผ่านกะโหลกออกรูล่างใต้กะโหลก
นำลูกบิดทั้ง ๒ ลูกเสียบเข้าที่คันทวนด้านบน ตรงลูกบิดขึงสายซอสองเส้น ซึ่งทำด้วยไหมฟั่นเป็นเกลียว ผูกคล้องปลายคันทวนด้านล่างสุดลูกบิดอันบนเสียงทุ้ม ลูกบิดอันล่างเสียงเอก ใต้ลูกบิดอันล่างใช้เชือกว่าวรัดสายซอกับตัวคันทวนเข้าด้วยกัน เรียกว่า “รัดอก” ใส่หมอนรองสายหรือหมอนหน้าซอ บางทีเรียกว่า “หย่อง” ใช้หนุนระหว่างหน้าซอกับสายซอ เพื่อให้ได้เสียงกังวาน ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำซออู้